จ.เพชรบูรณ์ และ จ.พิษณุโลก เป็นอีกสองจังหวัดที่กำลังฮอตฮิตในช่วงฤดูหนาว เพราะมากล้นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวชมทะเลหมอกสวยๆ อย่างภูทับเบิก เขาค้อ หรืออุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
และถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเสด็จประพาสเยี่ยมราษฎรของพระองค์ ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของประเทศไทย พระองค์ก็จะทรงเสด็จไปทั่วทุกหนแห่งเพื่อรับรู้ความเป็นอยู่ของประชาชน
และมีพระราชดำริในการสร้างโครงการดีๆ เพื่อพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร และในทริปนี้เราก็จะไปเที่ยวตามรอยพ่อชมสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ พร้อมโครงการในพระราชดำริที่ต้องขอบอกว่าถ้าใครไม่ไปถือว่าพลาด
#—————————#
Day 1
เริ่มต้นออกเดินทางไปยัง จ.พิษณุโลก โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ถึงวังน้อยแล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32(สายเอเซีย) ผ่านอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท เข้านครสวรรค์ แล้วใช้เส้นทางสาย 117 ตรงสู่พิษณุโลก รวมระยะทาง 337 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุด
หรือจากสิงห์บุรี ใช้เส้นทางสายอินทร์บุรี-ตากฟ้า (ทางหลวงหมายเลข 11) จนถึงทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ที่เขตอำเภอวังทอง เลี้ยวซ้ายไปอีก 17 กิโลเมตร เข้าสู่พิษณุโลกรวมระยะทางประมาณ 450 กิโลเมตร
และก่อนจะถึงจุดหมายแรก เราก็แวะเติมพลังมื้อเที่ยงกันที่ ร้านป้าถวิลผัดไทยวังทอง ร้านผัดไทยชื่อดังที่มีเมนูอร่อยๆ ขึ้นอย่างผัดไทยสูตรดั้งเดิมให้ได้ลองลิ้มชิมรสกัน ซึ่งรสชาติผัดไทยของที่นี่มีความกลมกล่อมลงตัวแทบไม่ต้องปรุงเพิ่ม
และยังมีเมนูผัดไทยอีกหลากหลาย อาทิ ผัดไทยห่อไข่ ผัดไทยกุ้งสด ผัดไทยไร้เส้น ผัดไทยหมี่กรอบ ผัดไทยเกี๊ยวหรอบ ฯลฯ และยังมีเมนูก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่งอร่อยๆ อีกมากมาย
ร้านป้าถวิลตั้งอยู่ ต.ชัยนาม หน้าโรงไฟฟ้า กฟผ.ทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00 – 15.30 น. โทรศัพท์: 08 9856 5154 , 08 1972 0700
อิ่มอร่อยไปกับเมนูดังของวังทองแล้วเราก็เริ่มออกเดินทางเที่ยวตามรอยพ่อกันที่ สวนพฤกษศาสตร์สกุโณทยาน หรืออุทยานวังนกแอ่น ซึ่งเป็นชื่อเดิมก่อนที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ให้ เมื่อครั้งเสด็จประพาสเมื่อปี พ.ศ. 2501
นอกจากจะได้ชื่นชมธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์แล้ว ที่นี่ยังมีน้ำตกและลำน้ำเข็กขนาดใหญ่ที่สามารถชมกันได้ที่ศาลาวนาศัย ซึ่งเคยเป็นพลับพลารับเสด็จเมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จประพาสเมืองพิษณุโลก
จากนั้นเราก็ไปตามรอยพ่อกันต่อที่ โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า เพื่อชมแหล่งเรียนรู้การพัฒนาป่าไม้ เพาะชำกล้าไม้หายากที่ควรอนุรักษ์ไว้เพื่อปลูกตามแนวพระราชดำริ และที่โครงการยังมีแปลงปลูกกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า แปลงสาธิตการปลูกสตรอเบอร์รี่พันธุ์พระราชทานปลอดสารพิษ ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้พื้นที่ภายในโครงการยังมีแนวหินผาเป็นจุดชมวิว 6 จุดสำคัญได้แก่ ผาไททานิค ผาพบรัก ผาบอกรัก ผาคู่รัก ผารักยืนยง และผาสลัดรัก ซึ่งสามารถยืนชมวิวทิวทัศน์ผืนป่าเขียวชอุ่ม และยังมีทุ่งดอกกระดาษที่พร้อมใจกันออกดอกผลิบานในช่วงฤดูหนาวให้ได้ชมกันอีกด้วย
หลังจากนั้นก็ออกเดินทางไปยัง ไร่สองเรา @ เขาค้อ เพื่อกินอาหารเย็นกัน
ที่นี่นอกจากจะเป็นร้านอาหารที่มีเมนูอร่อยๆ มากมายแล้ว ที่นี่ยังเปิดเป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ไว้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
สำหรับเมนูอาหารที่เราได้ชิมกันจะมีทั้ง เนื้อ AUS.Sirloin ย่างจิ้มแจ่ว พอร์คชอพย่างจิ้มแจ่ว น้ำพริกไร่สองเรา ปลาทอดราดซอสสามรส แกงส้มลูกฟักแม้วกุ้งสด ไข่เจียวเห็ดหอม ฯลฯ และที่ร้านยังมีเมนูอาหารอร่อยๆ อีกมากมาย
ไร่สองเรา ตั้งอยู่ที่ ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โทรศัพท์: 09 1216 8884 , 08 1266 7778 และ 08 1827 0226
และคืนแรกเราไปเช็คอินที่พักกันที่ At Tree Resort เขาค้อ รีสอร์ทสุดหรูที่ห้อมล้อมไปด้วยขุนเขา พร้อมชมวิวสวยงามแบบพาโนราม่าที่ต้องขอบอกว่าคุ้มค่าสุดๆ เพราะนอกจากภายในห้องพักจะตกแต่งอย่างสวยงามแล้ว ในช่วงเช้าก็จะมีทะเลหมอกมาทักทายกันถึงหน้าประตูห้องพักกันเลยทีเดียว
สำหรับภายในห้องพักจะมีการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น เน้นโทนสีที่อบอุ่น และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแบบครบครัน
สำหรับใครที่สนใจอยากมาพักผ่อนในรีสอร์ทสวยเก๋แบบนี้ก็มาพักกันได้ที่ At Tree Resort ตั้งอยู่ที่ ม.12 ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โทรศัพท์: 09 3130 3535 หรือ www.attreeresort.com
#—————————#
Day 2
เริ่มต้นเช้าวันที่สองด้วยการเดินทางไปชมความงามแสงแรกของวันใหม่กันที่ จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
จุดชมวิวแบบ 360 องศาที่สวยที่สุดของเขาค้อ เรียกได้ว่าถ้านักท่องเที่ยวอยากชมความสวยงามของเขาค้อต้องมาที่นี่
เพราะนอกจากจะได้สัมผัสไอหมอกที่แสนจะเย็นสบายแล้ว เรายังได้ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ทอแสงสีส้มสวยสดใส เป็นการต้อนรับวันใหม่ที่ดีต่อใจแบบสุดๆ
จากนั้นเราก็ออกเดินทางตามรอยพ่อไปยัง พระตำหนักเขาค้อ ซึ่งเป็นพระตำหนักที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
เป็นพลับพลาที่ทรงงานและพักแรมในวโรกาสที่พระองค์เสด็จตรวจเยี่ยมโครงการตามแนวพระราชดำริในพื้นที่ อ.เขาค้อ และยังมีจุดชมวิวสวยๆ ให้ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันอีกด้วย
ไปลุยกันต่อที่ ทุ่งกังหันลม ซึ่งเป็นจุดที่ผลิตพลังงานสะอาดที่ใหญ่ที่สุด เพราะมีกังหันลมจำนวน 24 ต้น ซึ่งมีความสูงกว่า 100 เมตรตั้งเด่นตระหง่านบนยอดเขาที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,050 เมตร จึงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างสุดลูกหูลูกตา
นอกจากจะได้นั่งรถรางชมวิวสวยๆ และชมความอลังการของกังหันลมแล้ว ก็ยังมีสวนดอกไม้และไร่สตรอเบอร์รี่ของไร่ BG อีกด้วย ซึ่งจะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนานอย่างรถฟอร์มูล่าม้งและชิงช้าชาวเขา เรียกได้ว่าแค่มาที่เดียวก็คุ้มสุดๆ
หลังจากตระเวนเที่ยวกันแล้วก็ถึงเวลากินมื้อเที่ยงกันที่ ร้านบุญมีขนมจีน ร้านขนมจีนเส้นสด 7 สี ซึ่งเป็นการรังสรรค์เมนูจากสมุนไพรนำมาผสมกับแป้งขนมจีน อาทิ ฟักทอง อัญชัน บีทรูท ใบเตย น้ำแตงโม ฯลฯ จึงทำให้เส้นขนมจีนที่บีบสดๆ มีสีสันที่สวยงามน่ากิน และมีความเหนียวนุ่มอร่อย
ยิ่งทานคู่กับน้ำยาที่ทางร้านเสิร์ฟมาให้แบบไม่อั้นทั้งน้ำยาป่า น้ำยากะทิ และน้ำพริก ขอบอกว่าอร่อยกลมกล่อมถึงใจสุดๆ ใครที่มาเที่ยวเพชรบูรณ์ก็อย่าลืมแวะมาชิมกันได้ที่ร้านบุญมีขนมจีน ตั้งอยู่ที่ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. โทรศัพท์:08 2647 1831
อิ่มอร่อยไปกับขนมจีนหล่มเก่าแล้วก็ได้เวลาไปเที่ยวกันต่อที่ พิพิธภัณฑ์หล่มศักดิ์ ที่สร้างขึ้นเพื่อสะท้อนถึงอัตลักษณ์ของชุมชนชาวหล่มสัก เป็นแหล่งเรียนรู้ทั้งทางด้านวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของชาวหล่มสักอย่างแท้จริง
ภายในพิพิธภัณฑ์หล่มศักดิ์จะประกอบไปด้วยห้องจัดแสดงจำนวน 10 ห้อง ได้แก่ 1.ห้องประชาสัมพันธ์ (Information ) 2.ห้องภาพยนตร์ (Theater Room) เป็นห้องที่นักท่องเที่ยวจะได้รับชมเรื่องราวที่นำเสนอเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนไทหล่มตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
โดยมีแก่นของเรื่องคือ คนไทหล่มคือใคร, มาจากไหน, ใช้ชีวิตกันอย่างไร และเมืองหล่มสักมีอะไรที่น่าสนใจ ในรูปแบบการนำเสนอ 360 องศา 3.ห้องเมืองหล่มสักในอดีต (Lomsak in the Past Room) 4.ห้องเสน่ห์เมืองหล่มสัก (Man of Lomsak Room)
5.ห้องหล่มสักเมื่อวันวาน (Lomsak Gallery Room) 6.ห้องจังหวัดหล่มศักดิ์ (Lomsak Goverment Room) 7.ห้องวัฒนธรรมล้านช้าง (Lan Chang’s Cultural Room) 8.ห้องไทหล่ม (Thai Lom Room) 9.ห้องของกินบ้านเฮา (Lomsak Cuisine Room) 10.ห้องเฮ็ดเวียกเฮ็ดงาน (Lomsak Folkways Room)
เปิดให้ชมในวันพุธ-วันศุกร์ วันละ 4 รอบ ได้แก่ รอบที่ 1 เวลา 9.00-10.00 น. , รอบที่ 2 เวลา 10.30-11.30 น. , รอบที่ 3 เวลา 13.30-14.30 น. , รอบที่ 4 เวลา 15.00-16.00 น. และวันเสาร์ เวลา 17.00 – 21.00 น. (ให้เข้าชมโดยไม่กำหนดรอบ) หยุดวันอาทิตย์ วันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
ออกเดินทางกันต่อไปเพื่อไปชมการตีมีดของชุมชนตาลเดี่ยวที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีต ณ กลุ่มตีมีดบ้านใหม่ ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาแห่งบรรพบุรุษที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น เอกลักษณ์เด่นของมีดบ้านใหม่คือมีดทุกเล่มจะสลักชื่อบรรพบุรุษของช่างที่ทำมีดเล่มนั้นขึ้น เพื่อระลึกถึงคุณความดีที่ท่านเหล่านั้นได้มอบแก่ลูกหลาน
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์มีดไว้สำหรับจำหน่ายอีกด้วย ทั้งมีดดาบ มีดทำครัว มีดทำการเกษตร มีดโบราณ ฯลฯ โดยกลุ่มตีมีดบ้านใหม่ตั้งอยู่ที่ วัดจอมมณี ต.ตาลเดี่ยว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ หรือหากใครสนใจอยากไปชมการสาธิตการตีมีดก็สามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์: 056 745997 , 056 704525
ก่อนเข้าที่พักก็แวะกินมื้อเย็นกันที่ ครัวบ้านสวน ร้านอาหารอร่อยเจ้าดังแห่งเมืองเพชรบูรณ์ พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารไทยอร่อยๆ มากมาย
เมนูที่เราได้กินในวันนี้มีทั้งฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน สะเดาน้ำปลาหวาน ปูหลน น้ำพริกมะขาม แกงคั่วปู ปลาทับทิมลุยสวน ฯลฯ
ขอบอกว่าแต่ละเมนูอร่อยมาก รสชาติเป็นแบบไทยแท้ สนใจอยากมาลิ้มลองอาหารไทยอร่อยๆ แบบนี้ก็สามารถมากันได้ที่ร้านครัวบ้านสวน ตั้งอยู่ที่ ถ.ประชาสิทธิ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โทรศัพท์: 056 723017
#—————————#
Day 3
ก่อนเดินทางกลับแวะซื้อของฝากกันที่ ไร่กำนันจุล ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลมัลเบอร์รี่เฟสต์ 2016
โดยจัดงานภายใต้แนวคิด ‘ไร่กำนันจุล ไร่แห่งฟาร์มสุข’ พบกับ 3 ฟาร์มสุข ปลูกประสบการณ์พิเศษ ลอดอุโมงค์มัลเบอร์รี่ชิมผลสดจากต้น สัมผัสวิถีเกษตรแบบพอเพียงในฟาร์มทัวร์ พาเหรดอาหารอร่อย เมนูพิเศษจากมัลเบอร์รี่ และสินค้าคุณภาพดีจากไร่กำนันจุลในฟาร์มอร่อย
และสนุกสนานไปกับกิจกรรมเสริมสร้างจินตนาการ ชมความน่ารักของสัตว์เลี้ยง Mini Zoo เรียนรู้หนนไหม พร้อมซื้อสินค้าเกษตรชุมชนที่ตลาดนัดในสวนในฟาร์มสนุก พร้อมพบกับกิจกรรมพิเศษเพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามโครงการ ‘เส้นทางตามรอยพระบาท’ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
งานมัลเบอร์รี่เฟสต์ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 – 31 มกราคม 2560 ณ ร้านไร่กำนันจุล สาขา2 ต.วัลชมภู อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โทรศัพท์: 056 771101-4 หรือ www.kamnanchul.com
จัดเต็มด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมายตลอดทริปขนาดนี้ เห็นทีต้องไม่พลาดมาเที่ยวเส้นทางตามรอยพระบาท พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ กันสักครั้งแล้ว
นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัดพิษณุโลก และเพชรบูรณ์ เพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพิษณุโลก (พื้นที่รับผิดชอบ พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, พิจิตร) โทร.0-5525-2742-3, 0-5525-9907
#——————————-#
ติดตามเรื่องราวการเดินทางสนุกๆ จากพวกเราได้ทุกวันคิดถึงที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก คิดถึงเรา TripTravelGang: ทริปทราเวลแก็งค์ คลิกเดียว…กินเที่ยวทุกวัน