ช่วงนี้ก้าวเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มตัวแล้ว หลายคนคงมีแพลนไปเที่ยวรับลมหนาวกันมากมายเลยทีเดียว
TripTravelGang เลยไม่พลาดจะพาคุณไปสัมผัสลมหนาวกันที่ จ.เชียงใหม่ หนึ่งในจังหวัดยอดฮิตที่ช่วงนี้ถูกกล่าวถึงบนโซเชียลอย่างรัวๆ กับทริป Coloured by Seasons กับบัตรเครดิต KTC ไปดูกันว่าทริปนี้เราจะพาเที่ยวตามรอยพระบาท และไปแอ่วที่ไหนกันบ้าง
พร้อมแล้วก็สะพายเป้ลุยเที่ยวกันได้เลย…
Day 1
เริ่มต้นทริปแอ่วเหนือวันแรกในครั้งนี้ด้วยการเติมพลังกันที่ ร้านโจ๊กสมเพชร
ร้านโจ๊กเจ้าดังที่ถือว่าอยู่คู่เมืองเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน จุดเด่นของร้านนี้นอกจากจะมีของกินอร่อยๆ ให้เลือกมากมาแล้ว ทางร้านยังเปิดแบบนันสต็อป 24 ชม. อีกด้วย สำหรับเมนูเด็ดๆ ของร้านนี้
นอกจากจะมีโจ๊กและข้าวต้มเป็นพระเอกของร้านแล้ว ยังมีเมนูที่น่าสนใจอย่างข้าวไก่อบ สลัดไก่อบ ข้าวราดแกงฮังเล ราดหน้า ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ ติ่มซำ และเครื่องดื่มอีกมากมาย ใครมาเที่ยวเชียงใหม่ก็สามารถแวะมากันได้ที่ร้านสมเพชร ตั้งอยู่ ถ.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โทร.053-210-649
จากนั้นเราก็เดินทางไปเที่ยวตามรอยพ่อกันที่ โครงการหลวงม่อนเงาะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านม่อนเงาะ อ.แม่แตง แต่เดิมเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขาเผ่าม้ง ซึ่งมักจะดำรงชีพด้วยการปลูกฝิ่นและมีฐานะยากจน โครงการหลวงจึงเริ่มพัฒนาและส่งเสริมการปลูกผักเป็นลำดับแรก โดยเน้นการแก้ปัญหาพื้นที่สูงชันยากต่อการเพาะปลูก
สำหรับพืชผักที่ปลูกส่วนใหญ่จะมีความเหมาะสมกับพื้นที่เนินเขา อาทิ ผักกาดสายพันธุ์ต่างๆ กะหล่ำปลีนานาชนิด ฟักทองญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นทีเด็ดของที่นี่ วิธีการปลูกที่ผ่านการวิจัยมาแล้วนั้น ทางโครงการหลวงได้ส่งต่อให้กับเกษตรกร เนรมิตพื้นที่เทือกเขาแห้งแล้งให้กลับกลายมาเป็นอีกหนึ่งวิวงดงามให้ได้เยี่ยมชม
นอกจากจะได้ชมวิวที่สวยงามบนพื้นที่โครงการแล้ว เรายังได้ชม ไร่ชาลุงเดช ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งชาวบ้านที่ประสบความสำเร็จจากการดำเนินชีวิตตามรอยพ่อ นอกจากจะเน้นการปลูกชาเป็นหลักแล้ว ยังมีการทำสวนเงาะ สวนส้ม และสวนมะขามอีกด้วย เรียกได้ว่าลุงเดชเป็นเกษตรกรที่ยึดถือตามหลักคำสอนพ่อหลวงมาปรับใช้ได้เป็นอย่างดี
หลังจากที่เดินชมไร่ชาแล้วก็ได้เวลาอาหารกลางวัน โดยมื้อนี้เราไปฝากท้องกันที่ร้านอาหารภายในโครงการหลวงม่อนเงาะ ซึ่งที่ร้านก็คัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่จากโครงการหลวงนำมาปรุงอาหารอร่อยๆ ให้เราได้กินกัน มั่นใจได้ว่าทุกเมนูสะอาด มีคุณภาพ และมีคุณค่าตามหลักโภชนาการอย่างแน่นอน
นักท่องเที่ยวที่สนใจอยากมาเที่ยวตามรอยพ่อ ก็สามารถแวะมากันได้ที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. หรือสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 053 318308 , 08 1025 1002
จากนั้นเราก็เดินทางเข้าที่พักกันที่ ฟลอร่า ครีค เชียงใหม่ โรงแรมสุดหรูบรรยากาศดีที่นำความงดงามของเฉดสีตามฤดูกาลจากสวนดอกไม้นานาพรรณมาใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งห้องพัก พร้อมคอนเซ็ปต์ร่วมสมัยแบบสวิสซ์ชาเล่ย์โดยเปิดให้บริการทั้งหมด 70 ห้อง
นอกจากนี้ยังมีสวนดอกไม้กฤษดาดอย สวนดอกไม้เมืองหนาวในสไตล์ยุโรปที่มีดอกไม้หลากสีสันนานาพรรณที่เปลี่ยนไปจะจัดแสดงตามฤดูกาล สร้างความประทับใจให้ผู้มาเข้าพักได้ไม่น้อย
หลังจากที่เช็คอินเข้าห้องพักแล้วกินข้าวเย็นเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางแวะไปชมสัตว์ในช่วงตอนกลางคืนกันที่ ไนท์ซาฟารี สวนสัตว์ในยามค่ำคืนที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่
ทริปนี่เราเลือกนั่งรถรางชมสัตว์ในช่วงตอนกลางคืน โดยเข้าจะเข้าไปในโซน Savanna Safari เป็นโซนแรก พร้อมสัมผัสกับสัตว์อย่างใกล้ชิด อาทิ ยีราฟ ม้าลาย จิงโจ้แดง ฯลฯ และ Predator Prowl เป็นโซนที่สอง โซนนี้เป็นโซนของสัตว์นักล่าอย่างเสือโคร่งขาว สิงโต ไฮยีน่าลายจุด ฯลฯ ซึ่งทั้งสองโซนจะใช้เวลาในการนั่งชมประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ตั้งอยู่ที่ ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 18.30 – 22.00 น. หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 053 999000 และ www.chiangmainightsafari.com
Day 2
เริ่มต้นเช้าวันที่สองด้วยการเดินทางไปยัง วัดพระธาตุดอยคำ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ถ.เชียงใหม่ – หางดง ต.แม่เหี๊ยะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สวยเด่นเป็นสง่าบนเทือกเขาเล็กๆ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเชียงใหม่
ภูเขาที่ตั้งของพระธาตุดอยคำเป็นป่าเขียวขจี มีทัศนียภาพที่สวยงามเป็นอย่างมาก ด้านล่างเป็นสวนราชพฤกษ์ (พืชสวนโลก) และอยู่ใกล้กับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ถือเป็นอีกหนึ่งปูชนียสถานที่สำคัญและเก่าแก่อีกแห่งของ จ.เชียงใหม่ ที่ไม่ควรพลาด
เสร็จจากไหว้พระธาตุขอพรกันแล้ว เราก็ไปแวะกินมื้อกลางวันแบบเฮลธ์ตี้กันที่ ร้านโอ้กะจู๋ ร้านสลัดเจ้าดังที่พร้อมเสิร์ฟสลัดผักออร์แกนิคหลากหลาย โดยสามารถเลือกผัก ท็อปปิ้ง และน้ำสลัดได้เองตามใจชอบ และยังมีเมนูสเต๊กอร่อยๆ ให้ได้เลือกสั่งอีกด้วย ขอบอกว่าใครชื่นชอบการกินผักไม่ควรพลาดเด็ดขาด
ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09.30 – 21.00 น. (ครัวปิด 20.45 น.) สามารถสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08 1980 2416 (สาขา1) 09 2268 6639 (สาขา2) หรือ facebook.com/ohkajhu
อิ่มอร่อยกับมื้อสุขภาพไปแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปยัง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย โครงการในสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเกษตรกร มีการแนะนำพืชเศรษฐกิจใหม่ๆ เพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น ทำไร่เลื่อนลอย และยกระดับความเป็นอยู่ของชาวเขาให้ดีขึ้น โดยภายในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยจะมีทั้งแปลงสาธิตด้านเกษตรกรรมอย่างแปลงปลูกองุ่น สตรอเบอร์รี่ มะม่วง ผักกาดหอมห่อ ผักกาดหางหงษ์ ผักกาดขาวปลี ฯลฯ
นอกจากจะได้ชมพื้นที่เกษตรกรรมภายในโครงการแล้ว เรายังได้แวะชมวิวและทัศนียภาพสวยๆ กันที่ ม่อนแจ่ม อีกด้วย ขอบอกว่าวิวช่วงนี้ของม่อนแจ่มนั้นแจ่มสมชื่อจริงๆ เพราะนอกจากจะได้สัมผัสกับอากาศที่เย็นสบายแล้ว ที่นี่ยังมีสวนดอกไม้เมืองหนาวสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปอีกด้วย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากมาชมโครงการหลวงและวิวสวยๆ ที่ม่อนแจ่มก็สามารถมากันได้ที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตั้งอยู่ ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เปิดตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. โทรศัพท์: 08 1950 9767, 08 3324 0610
Day 3
ประเดิมทริปวันสุดท้ายด้วยธรรมชาติงามๆ และดอกไม้สวยๆ แบบเมืองเหนือกันที่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อุทยานดอกไม้ที่จัดขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อ พ.ศ.2549 และทรงเจริญพระชนมายุ 80 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2550
ภายในอุทยานจะมีการจัดแสดงพืชผลและพันธุ์ไม้นานาชนิดที่แข่งกันออกดอกเบ่งบานสะพรั่งท่ามกลางลมหนาวเย็นสบาย และยังมีโซนการจัดแสดงต่างๆ อาทิ หอคำหลวง หอคอยชมวิว โดมไม้เขตร้อนชื้น สวนสวัสดี อุทยานกล้วยไม้ เรือนร่มไม้ สวนบอนไซ เป็นต้น และยังมีร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึกสวยงามให้ได้เลือกช็อปกันอีกด้วย
หากอยากสัมผัสธรรมชาติที่สวยงามและชื่นชมความงามของหมู่มวลดอกไม้ต้องมาที่นี่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. โทรศัพท์ 053 114110-5 หรือ www.royalparkrajapruek.com
แวะซื้อของฝากกันที่ตลาดวโรรส โดยร้านที่เราจะไปช็อปนั้นคือ ร้านดำรงค์ ร้านของฝากชื่อดังที่มีทั้งหมูทอด ไส้อั่ว แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม ที่ทำกันสดๆ วันต่อวัน แถมยังมีลูกค้ามาต่อคิวกันยาวเหยียดเป็นเครื่องการันตีความลำแต๊ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยร้านดำรงค์ ตั้งอยู่ภายในกาดวโรรส โทรศัพท์: 053 234661
ก่อนเดินทางกลับแวะกินอาหารอร่อยๆ กันที่ ร้านรักษ์ท่าน้ำ ร้านอาหารพื้นเมืองบรรยากาศดีติดริมแม่น้ำปิงที่พร้อมเสิร์ฟอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ หลากหลายเมนู บรรยากาศของร้านมีการตกแต่งอย่างสวยงามสไตล์ล้านนาโคโลเนียน สำหรับเมนูอาหารแนะนำจะมีทั้งออเดิร์ฟเมือง หมูย่างท่าน้ำ แกงฮังเล แกงคั่วปูนิ่มใบชะพลู ลาบปลาทับทิม หมูแดดเดียว ฯลฯ
และยังมีเมนูอร่อยๆ ให้ได้ลิ้มลองอีกมากมาย โดยร้านตั้งอยู่ที่ ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 – 23.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 052 001111 และ www.thanuhm.com
บอกได้เลยว่า หนาวนี้มาเที่ยวเชียงใหม่ คุณต้องประทับใจและฟินกับสายลมหนาวแบบไม่รู้ลืมกันแน่นอน